
*..เกร็ดประวัติศาสตร์..”ลัทธิค้าทาสทำฟาร์มผสมพันธุ์ทาสมนุษย์”..>..”เรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงในโลกมนุษย์”..*
*..ประวัติศาสตร์การค้าทาสและทำฟาร์มมนุษย์ที่ถูกปิดซ่อนไว้ในความมืดมิด..นั่นคือ..”กษัตริย์แห่งอังกฤษทำฟาร์มปศุสัตว์มนุษย์”..ด้วยการ..”ใช้ทาสพ่อพันธุ์นิโกรตัวใหญ่และแข็งแรงผสมกับหญิงทาสชาวไอริช”..ก็จะได้ลูกทาสผสมพันธุ์ทางที่แข็งแรงราคาก็จะดีกว่า..*
..สู่อดีตยุคค้าทาสทำฟาร์มมนุษย์เยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน..ซึ่งการค้าทาสถึอว่าเป็นสิ่งถูกกฎหมายไปทั่วโลก..สำหรับสยามประเทศก็มีการค้าทาสมาแต่ยุคบรรพกาลเช่นเดียวกัน….
ว่าด้วยประวัติศาสตร์กษัตริย์เจมส์แห่งอังกฤษขายนักโทษชาวไอริช 30,000 คนให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก.. ..ชาวไอร์แลนด์กลายเป็นแหล่งผลิตฟาร์มปศุสัตว์มนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับพ่อค้าทาสชาวอังกฤษอย่างรวดเร็ว ยุคแรกแห่งค้าทาสส่วนใหญ่ของโลกนั้นเป็นคนผิวขาว(เรื่องค้าทาสอย่างป่าเถื่อนไม่เฉพาะพวกผิวขาวเท่านั้น..หลักฐานประจักษ์พยานอันเจ็บปวดยังหลงเหลืออยู่ในสังคมวรรณะอินเดียปัจจุบันแม้กระทั่งพวกมนุษย์กินคนบนเกาะนิวกินี..การกดขี่ขูดรีดของชนชั้นปกครองศักดินาไทยและใช้กฎหมายอาญามาตรา112ฯลฯรวมทั้งการคดโกง..การกดขี่ขูดรีด..การทุบตีทรมานทรกรรม..การละเมิดกระทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงต่อลูกหลานไทยเยี่ยงสัตว์และทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์รวมทั้งการใช้แรงงานเยี่ยงทาสในกองทัพไทย..นั่นคือ..”หลักฐานหลงเหลือของสังคมค้าทาสที่ป่าเถื่อนนั่นเอง)”..
..ช่วงปี ค.ศ. 1641-1652 ชาวไอริชกว่า 500,000 คนถูกสังหารโหดโดยอังกฤษและอีก 300,000 คนถูกขายเป็นไปทาส ประชากรของไอร์แลนด์ลดลงฮวบฮาบจากประมาณ 1,500,000 คนเหลือ 600,000คนในทศวรรษเดียว.. ..ครอบครัวชาวไอริชผู้น่าสงสารแตกเป็นเสี่ยง ๆ เนื่องจากพ่อค้าทาสชาวอังกฤษไม่อนุญาตให้พ่อชาวไอริชพาภรรยาและลูกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไปด้วย.. ..
ในช่วงปี ค.ศ.1650 มีเด็กไอริชกว่า100,000 คน อายุระหว่าง 10 – 14 ปีถูกพลัดพรากไปจากพ่อแม่ของพวกเขาและถูกขายไปเป็นทาสในเวสต์อินดีสเวอร์จิเนียและนิวอิงแลนด์..
.. ในทศวรรษนั้นชาวไอริช 52,000 คน (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก) ถูกขายให้กับบาร์เบโดสและเวอร์จิเนีย ชายหญิงชาวไอริชอีก 30,000 คนถูกขนส่งและขายให้แก่พ่อค้าทาสที่ประมูลให้ราคาสูงที่สุด
..ในปี ค. ศ. 1656 ครอมเวลล์สั่งให้เด็กชาวไอริช 2,000 คนถูกพาไปยังจาเมกาและขายเป็นทาสให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษ ณ ที่นั่นเพื่อใช้เป็นทาสแรงงานเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานจตุบาท..
..การค้าทาสแอฟริกันเพิ่งเริ่มในช่วงเวลาเดียวกัน มีการบันทึกไว้ว่าทาสชาวแอฟริกันซึ่งราคาแพงกว่าเพราะตัวใหญ่กว่าแข็งแรงกว่าและอดทนกว่าทาสชาวไอริช..มักจะมีราคาสูงและได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าทาสชาวไอริช….ทาสผิวดำชาวแอฟริกันจึงมีราคาแพงมากในช่วงปลายปีค.ศ.1600 (ทาสชายผิวดำราคา50 สเตอร์ลิง/คน) ทาสชาวไอริชราคาถูก (ราคาไม่เกิน 5 สเตอร์ลิง/คน) หากชาวไร่ผิวขาวจะทำร้ายทุบตีทาสชาวไอริชจนตายคามือมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมายอาญาอะไร เพราะราคาถูกกว่าการฆ่าชาวแอฟริกาที่มีราคาแพงกว่านั่นเอง..
..ในระยะหลังต่อมาเริ่มมีชาวอังกฤษและพวกผิวขาวหัวใสเริ่มทำการเพาะพันธุ์สตรีชาวไอริชอย่างรวดเร็วเพื่อความสุขส่วนตัวและเพื่อผลกำไรที่มากขึ้นด้วยการเอาชายนิโกรตัวใหญ่มาผสมกับหญิงชาวไอริชเพื่อที่จะได้ทาสพันธุ์ใหม่ที่ตัวใหญ่และอดทนแข็งแรงกว่าจึงส่งผลให้แม่ชาวไอริชเหล่านี้มีโอกาสเป็นไท แต่ลูกๆของเธอหาได้เป็นอิสระตามแม่ไม่ กลับยังคงเป็นทาสต่อไป….วิธีทำฟาร์มมนุษย์ทาสจึงเป็นการเพิ่มมูลค่าทาสชาวไอริช คือการจับหญิงชาวไอริชไปผสมพันธุ์กับผู้ชายแอฟริกันที่ตัวใหญ่กว่า จะได้ทาสพันธุ์ผสมเรียกว่า.. “ทาสมัลลัตโต”..วิธีนี้จึงเฟื่องฟูแพร่หลายมากในยุคค้าทาสพันธุ์ใหม่….จนถึงปี ค.ศ. 1681 อังกฤษได้ผ่านกฎหมาย..“ห้ามผสมพันธุ์หญิงทาสชาวไอริชกับชายผิวดำชาวแอฟริกันเพื่อจุดประสงค์ในการผลิตทาสเพื่อขาย”….สาเหตุที่ห้ามเพียงเพราะมันส่งผลกระทบต่อกำไรของเอเยนต์ค้าทาสและบริษัทค้าทาสทาสขนาดใหญ่ทั่วภูมิภาค.. ..อังกฤษยังคงส่งมอบทาสชาวไอริชนับหมื่นต่อเนื่องมานานกว่าศตวรรษ ประวัติศาสตร์ระบุว่าหลังจากการจลาจลในไอร์แลนด์เมื่อปี 1798 จำนวนทาสไอริชนับพันคนถูกขายให้ชาวอเมริกาและออสเตรเลีย..
..ในปี ค.ศ.1839 สหราชอาณาจักรตัดสินใจในที่สุด เพื่อหยุดการขนส่งทาส จริงๆแล้วก็แค่ 181 ปีที่ผ่านมานี่เอง….
จะว่าไปแล้วก่อนประธานาธิบดี Abraham Lincolnประกาศเลิกทาสเมื่อ1มกราคมปีค.ศ.1863 AbrahamLincoln ได้ประกาศเลิกทาสในสถานการณ์สงครามกลางเมืองด้วยการใช้อำนาจในยามสงครามขั้นเด็ดขาดโดยไม่ได้เป็นกฎหมายผ่านสภาคองเกรสก่อน แต่ยื่นคำขาดแก่10รัฐใต้ที่เป็นกบฎต้องปลดปล่อยการค้าทาสและให้อิสรภาพแก่ทาสโดยทันที(10รัฐใต้กบฎยอมอยู่ในอาณานิคมแห่งจักรวรรดิอังกฤษที่ค้าทาสได้อย่างเสรีเพื่อเพิ่มอุตสาหกรรมการผลิต)..ณ เวลานั้นโลกทั้งโลกยังค้าทาสอย่างถูกกฎหมาย..เท่ากับว่า..”บรรดาประเทศคริสเตียนทั่วยุโรปและทั่วทวีปอเมริกาเป็นผู้ค้าทาสมาแต่อดีตกาลและประกาศเลิกทาสอย่างเด็ดขาดด้วยตนเอง”..จึงมีผลต่อการเลิกทาสไปทั่วโลกเช่นเดียวกัน..ถึงแม้มีการประกาศเลิกทาสของแต่ละประเทศอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม..แต่..”พฤติกรรมการค้าทาสอย่างป่าเถื่อนยังแฝงอยู่ในลัทธิการปกครองแบบเผด็จการในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์”..โดยอาศัยกองทัพและศาลตุลาการเป็นเครื่องมือหรือเป็นมือปืนรับจ้างปล้น..ฆ่าและจับยัดคุกตะรางรวมทั้งกลโกงกดขี่ขูดรีดประชาชนผู้จ่ายภาษีนานัปการมาตลอดแห่งยุคสมัย..แม้บางประเทศก็ได้ปลดเปลื้องและเป็นแบบอย่างที่ดีงามเฉกเช่นประเทศอังกฤษและญี่ปุ่นจนนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง..แต่ก็ยังหลงเหลือบางประเทศที่มิอาจปรับตัวยอมจมปลักย้อนยุคสู่ยุคมืดอย่างหดหู่รันทด..เพียงเพื่ออำนาจผูกขาดและทรัพย์ศฤงคารของชนกลุ่มน้อยซึ่งเป็นชนชั้นปกครองอำมาตย์ศักดินาจารีตอนุรักษ์นิยมและบรรดาสมุนบริวาร….
ดังนั้น..”การเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของคณะราษฏร์เมื่อ2475มาสู่ระบอบประชาธิปไตย”..ถือว่า..”คณะราษฎร์เพียงเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยจอมปลอมมาสวมให้แก่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเท่านั้น”..แก่นแท้นั่นคือ..”สยามประเทศอยู่ภายใต้ระบอบสมบูรณญาสิทธิราชอย่างเข้มข้นตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบันและสู่อนาคต(ที่ลูกหลานไทยต้องทำการบ้านข้อใหญ่เพื่อการปลดแอกและปลดปล่อย..นี่แหละ..”ฟาร์มมนุษย์สมัยใหม่”)..
..
เทียบกับกรุงสยามก็คือยุคกรุงรัตนโกสินทร์อยู่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 3 พอดี คุณหมอบรัดเลย์ ซึ่งเป็นแพทย์ชาวอเมริกันคนแรกที่มาตั้งโรงพิมพ์ในกรุงสยามและเป็นก่อตั้งโรงพยาบาลและประสิทธิ์ประสาทวิชาการแพทย์สมัยใหม่แก่สยามประเทศเป็นครั้งแรก..*
*..ย้อนถึงชนชั้นปกครองศักดินาไทยยังหลงยุคคิดย้อนยุคทำฟาร์มมนุษย์และการค้าทาส..หลักฐานหลงเหลือโจทก์ประจานประจักษ์ชัด..ก็นี่ไง..”กองทัพทาสค่ายทหารทั้งโกง-ขูดรีด..ทั้งฆ่า-ไล่ล่า..จ่าจักรพันธ์ ถมมายิงกราดที่โคราช-ใครโกง-ใครผิด-ใครถูก-ทำงามหน้าประจานโลกคลื่นกระทบฝั่ง..หมู่อาร์มแฉกลโกงพวกขุนศึกจปร…ผู้นำขุนศึกทรราชปล้นชาติปล้นแผ่นดินมาตลอดประวัติศาสตร์สยามประเทศมากที่สุดในโลกถึง14ครั้งทั้งฉีกทิ้งและใช้รัฐธรรมนูญมากที่สุดในโลกถึง20ฉบับ..
นาฬิกายืมศพ..
มูลนิธิโจรป่ารอยแตก4จังหวัดเพื่อปล้นชาติของ3ป.ทรราช..
แป้งมันออสเตรเลียได้เป็นรมต…
นายประยุทธ์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ..
โกงบัตรเขย่งลวงโลก..
ประชามติลวงโลก8สค.58..
รัฐธรรมนูญทาสหมวด1-หมวด2..
กฎหมายอาญามาตรา112..
ปรสิต250ตัว..
ลัทธิบารมีอุปถัมภ์นิยมเฟื่องฟู..
พวกมาเฟียร์คนมีสีขี่คอเหยียบหัวคนวิ่งเต้นซื้อขายต่ำแหน่งพัลวันทุกยุคสมัย..”ตั๋วช้าง”..
มาเฟียร์มีสีคุมบ่อนประกอบอาชีพสีเทาระดับประเทศ..
ยาไอซ์นับแสนล้านคือสารส้มบด..
ซุ้มมือปืนมีสีล่าหัวมนุษย์..
นักการเมืองสลิ่มอีลิททรยศทรชนเต็มสภา..
นักร้องนักค้าความ-เนติบริกรโจรฟุ้งเฟื่องเดินขวักไข่วเต็มศาล..
องค์กรอิสระลากตั้งลวงโลก..
ศาลการเมืองโจร..
ตำรวจโจร+ศาลผีปีศาจตุลาโกงตุลาการ ฯลฯ
ทั้งหมดทั้งปวงดังกล่าวข้างต้นล้วนเป็นผลงานอัปยศของพวกขุนศึกจปร.รุ่นพี่รุ่นน้องแห่งกองทัพไทยภายใต้อำนาจเหนือรัฐทั้งสิ้น”..นี่แหละหนา..”ลัทธิทำฟาร์มทาสมนุษย์แห่งรัฐไทยขนานแท้”..>..
“กะลาคว่ำ-กะลาหงายจงเจริญ”..*
“..คนไทยหัวใจเขียวเพื่อการปลดปล่อย..”
เรียบเรียงวันที่499 เดือนสวรรค์มาโปรด ปีพระศักราช 7999.999
อ่านบทความคล้ายกันได้ที่ : https://thaihumanrights.wordpress.com/2021/02/19/the-forced-breeding-myth-in-the-irish-slaves-meme/
และ อีกบทความหนึ่งเรื่อง ทาส
แปลและเรียบเรียงโดย
พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_818598/embed#?secret=nNEKVrV5m7
ตีแผ่ตำนานการค้าทาส โดยพลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก
